อยากได้ Wi-Fi เร็วๆ เราต้อง...
บางคนบอกเลือก AP ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ บางคนบอกใช้ AP ที่สัญญาณแรงๆ บางคนบอกเลือก controller ฉลาดๆไว้จัดการ AP ซึ่งจริงๆแล้วไม่มีคำตอบไหนผิด ทุกอย่างล้วนสำคัญและใช้ประกอบกัน มีอย่างหนึ่งแต่ขาดอีกอย่างก็ไม่ได้
แต่ในประสบการณ์ของผมที่ทำงานด้าน Wi-Fi มาหลายปี ถ้ามีใครเอาปืนมาจ่อหัวบอกเลือกได้แค่อย่างเดียวและ Wi-Fi ต้องดี ต้องนิ่ง ต้องเร็ว ถ้าต้องเอาชีวิตเป็นเดิมพันจริง ผมจะเลือกติด AP ให้ใกล้กับ Client ที่สุดเช่นติดในห้องแขกโรงแรม ห้องประชุมหรือติดในห้องผู้บริหารแทนที่ติดในห้องหน้าห้อง
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ designer หลายๆคนมองข้ามอย่างไม่น่าให้อภัย (รวมถึงตัวผมเองในอดีตที่เคยเลือกติด AP ใน Corridor แทนที่จะติดในห้องแขก)
การที่เราติด AP ใกล้ client ช่วยให้ Wi-Fi ทำงานได้ดีขึ้นเพราะอุปกรณ์ได้รับ RSSI ที่ดังขึ้น -> SNR ที่สูงขึ้น -> client สามารถใช้ modulation scheme ที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นเช่น QAM-256 (Wi-Fi 5) หรือ QAM-1024 (Wi-Fi 6) ซึ่งท้ายที่สุดช่วยให้รับส่งสัญญาณ (data rate & throughput) ในความเร็วที่สูงขึ้นได้
นอกจากนั้นการที่เราติดตั้ง AP ในห้องช่วยลดปัญหา interference ในพื้นที่โล่ง เราใช้ผนังของห้องลดทอนความแรงของสัญญาณไม่ให้ไปกวนพื้นที่อื่นๆ เปิดโอกาสให้ AP ตัวอื่นใช้ช่องสัญญาณที่มีจำกัดในพื้นที่ของตัวเองได้
การติด AP นอกห้องไม่ได้หมายความว่าในห้องจะใช้งานไม่ได้นะครับ แต่ปัญหาคือปกติเราไม่ค่อยวัดสัญญาณกันเท่าไหร่ หลายครั้ง designer ประเมินเองว่าการที่ติดหน้าห้องสัญญาณควรจะเข้าห้องได้แต่ใช้งานจริงไม่ได้ ถ้าเราเลือกที่จะติดหน้าห้องจริง เราต้องเช็คสัญญาณในห้องด้วยครับ
ท้ายสุด ผมอยากฝากไว้ว่า AP ในห้องไม่จำเป็นต้องเป็นรุ่นใหญ่ เราสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับจำนวน client device ที่ใช้ในห้องนั้นๆ เช่นถ้าในห้องประชุม เราอาจจะเลือกใช้รุ่น 3 หรือ 4 เสา หรืออาจจะติด 2 เสา 2 ตัว แต่ถ้าเป็น office ส่วนตัวแล้ว AP 2x2 ก็เพียงพอแล้วครับ.สรุป: ติด AP ให้ใกล้กับ client ที่สุดเพื่อช่วยเพิ่ม SNR ถ้า client อยู่ในห้อง ติด AP ในห้อง อย่าติดนอกห้อง