ทำไมเราควรปิด 802.11b Rates

อาทิตย์ก่อนผมได้ไปทำ WLAN Audit ให้กับบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ที่สาขาในกทม บริษัทตั้งอยู่ในตึกออฟฟิสสูงกลางเมือง เค้าอยากให้ผมช่วยดูว่า WLAN ที่ติดตั้งอยู่โดยรวมเป็นยังไง มีจุดบอดตรงไหน หรือมีอะไรที่ต้องแก้ไข

ผมใช้ Ekahau เป็นอุปกรณ์หลักในการเช็คสัญญาณซึ่งก็เจอปัญหาเดิมๆทั่วไปเช่นเรื่อง channel interference ที่ 2.4GHz ที่เราแทบจะทำอะไรไม่ได้ หรือการใช้ 80MHz channel width ที่เคยเขียนในบทความก่อนๆว่าถ้าทำไม่ได้อย่าฝืน

แต่วันนี้จะขอหยิบยกเรื่อง MBR หรือ Minimum Basic Rate ซึ่งเป็นตัวแปรอีกตัวที่ส่งผลต่อความเร็วของ Wi-Fi ที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกันเท่าไหร่

แต่ก่อนจะเข้าเรื่อง MBR ขออธิบาย Basic Rate (BR) กับ Supported Rate ก่อนครับ

Basic Rate คือ data rate ภาคบังคับที่อุปกรณ์ Wi-Fi ทุกตัวในมาตรฐานนั้นๆ (เช่น 802.11a/b/g/n/ac) ต้องรองรับ ส่วน Supported Rate เป็นความเร็วทางเลือกซึ่งตัว client อาจจะรองรับหรือไม่รองรับก็ได้ เช่น 802.11b รองรับ 1*, 2*, 5.5* และ 11* Mbps ส่วน OFDM อย่าง 802.11g/n/ac ใช้ 6*, 9, 12*, 18, 24*, 48, 54 (เครื่องหมาย * เป็น BR)

Minimum Basic Rate คือ BR ต่ำสุดที่ AP สามารถใช้สื่อสารกับ client ได้ และเป็นความเร็วที่ AP ใช้ส่ง management, broadcast และ multicast frame เช่น Beacon เป็นต้น

ส่วน frame ชนิดอื่นๆ เช่น control frame หรือ data frame สามารถใช้ data rate ที่สูงขึ้นได้ ฉะนั้น AP อาจจะส่ง data ที่ 72Mbps แต่ส่ง beacon ที่ 1Mbps

ประเด็นคือ Wi-Fi ใช้ management frame จำนวนมากในการควบคุม client ใน WLAN และส่วนใหญ่จะเป็น Beacon frame ที่ใช้ advertise BSSID หากใครสงสัยทำไมตอนเรา Search Wi-Fi แล้วเจอ SSID นั่นคือหน้าที่ของ Beacon ครับ

BSSID หนึ่งตัวจะส่ง beacon ประมาณ 10 frame ต่อวินาที ฉะนั้นถ้าเรามี 5 BSSID = 50 beacon ต่อวิฯ ไม่รวมของ AP ตัวอื่นๆที่อยู่ใน channel เดียวกัน

Management frame จำนวนมากสามารถสร้างปัญหาคอขวดและแย่ง Airtime จาก client ตัวอื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มี AP หนาแน่นจะพบปัญหา Wi-Fi ช้าไม่ใช่เพราะว่าการใช้งาน แต่เป็นเพราะมี Wi-Fi overhead ที่สูงมาก ฉะนั้นการที่เราเปลี่ยน MBR โดยใช้ data rate ที่สูงขึ้นแม้ว่าจะไม่ได้ช่วยลดจำนวน overhead ลงแต่ช่วยเพิ่มความเร็ว Wi-Fi เนื่องจากเราสามารถจัดการ overhead ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น

โดยหลัก Best Practice แล้วเราควรจะปิด 802.11b data rate (1, 2, 5.5, 11) ในย่านความถี่ 2.4GHz และใช้ OFDM MBR ที่ 6Mbps หรือไม่ก็ 12Mbps

ที่ควรระวังคือ ถ้าเราตั้ง MBR สูงเกิน client บางตัว โดยเฉพาะอุปกรณ์ IoT อาจจะไม่รองรับ data rate นั้นและไม่สามารถเชื่อมต่อเข้า WLAN นี้ได้ แต่ยุคนี้สมัยนี้แล้ว client ที่รองรับแค่ 11b คงแทบจะหาไม่ได้แล้ว ฉะนั้น ผมแนะนำว่าปิดได้ปิดเลยครับ บางที่ผมเห็นเริ่มที่ 24Mbps แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเสี่ยงไป ผมกว่าตามองค์กรทั่วไป 12Mbps กำลังดี

ข้อดีอีกข้อของการปิด 11b data rate คือลดปัญหา Sticky Client

ถ้าใครไม่คุ้น sticky client คือปัญหาที่ client ไม่ยอมย้ายจาก AP ตัวเก่าที่สัญญาณอ่อนมาอีกตัวที่ใกล้กว่าและสัญญาณแรงกว่า เหตุผลคือมันยังสามารถคุยกับ AP ตัวเก่าได้เพราะ data rate ยังสูงกว่า MBR แต่ถ้าเราตั้ง MBR ที่ 12Mbps พอสัญญาณอ่อนลง data rate ก็ตก และเมื่อไหร่ต่ำกว่า 12Mbps client ก็จะหลุดเพราะไม่สามารถคุยกับ AP ในความเร็ว 12Mbps ได้ ซึ่งถ้าเราวางตำแหน่ง AP ดีๆ เราสามารถบังคับให้ client roam มาหา AP ตัวใหม่ได้

เขียนมายืดยาวแต่สรุปง่ายๆคือ ปิด 802.11b data rate แล้วใช้ OFDM rate แทน แต่ข่าวร้ายคือไม่ใช่ AP ทุกยี่ห้อจะทำได้ consumer APs ส่วนใหญ่จะไม่สามารถแก้ MBR ตัวนี้ได้ แต่ถ้าใช้พวก enterprise AP เราสามารถเปลี่ยน MBR ในตัว controller ได้ครับ

Subscribe to Wi-Fi Resource Center by SIAM Wireless

เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสารและบทความใหม่ๆ มาติดตามกันนะครับ
[email protected]
Subscribe